ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
เชื้อราข้างขาหนีบ

ควรกินยาแบบไหน และทายาแบบไหนคะ

[รหัสคำถาม : 659] วันที่รับคำถาม : 14 ต.ค. 67 - 14:49:43 ถามโดย : บุคคลทั่วไป

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

เชื้อราที่ผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศภูมิอากาศร้อนชื้น ส่วนใหญ่เกิดที่ผิวหนังชั้นตื้น ที่พบได้บ่อยได้แก่ เกลื้อน และกลาก

เกลื้อน เกิดจากเชื้อรากลุ่มยีสต์ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบได้เป็นปกติอยู่บนหนังกําพรา มีลักษณะเป็นดวงขาว น้ำตาล ดำหรือแดง ขอบเขตชัดเจน และมีขุยบาง ๆ [1] เกลื้อนมักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันมากเช่น หน้า คอ หน้าอก แขน หรือบริเวณหลัง โดยปกติเกลื้อนมักไม่ได้พบบริเวณขาหนีบแต่ก็มีกรณีรายงานการเกิดเกลื้อนบริเวณดังกล่าวได้ [2] การรักษาเริ่มต้นสามารถใช้ยาทา เช่น การใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ 2.5% selenium sulfide หรือ 2% ketoconazole ฟอกทิ้งไว้ 5-10 นาทีวันละ 1 ครั้งนาน 1-2 สัปดาห์ หรืออาจใช้ยาฆ่าเชื้อรา รูปแบบครีม เช่น 2% ketoconazole หรือ 1% clotrimazole เป็นต้น ทาบริเวณที่เป็นวันละ 1-2 ครั้งนาน 2 สัปดาห์

กรณีไม่ตอบสนองต่อยาทา หรือเป็นมากทั้งตัวอาจพิจารณายากิน เช่น
- itraconazole 200 รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน ติดต่อกัน 5 วัน
- fluconazole 300 mg รับประทาน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 2 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม เกลื้อนมักทิ้งรอยด่างไว้แม้จะรักษาด้วยยาข้างต้นจนครบระยะเวลาแล้วก็ตาม โดยรอยที่ทิ้งไว้จะค่อย ๆ จางลงเองโดยไม่จำเป็นต้องรักษาเพิ่มเติม [3]

ส่วนกลาก เป็นโรคติดเชื้อราที่จะก่อโรคในส่วนของผิวหนัง รวมถึงบริเวณขาหนีบ โดยจะพบรอยโรคบริเวณหัวหน่าว หรือต้นขาทั้งสองข้าง มีลักษณะเป็นปื้นนูนแดง มีขอบชัดเจน อาจเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และอาจพบขุยในผู้ป่วยที่เป็นเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการคันมาก เมื่อเกาจะทำให้ผิวหนังหนาขึ้นได้ การรักษาเริ่มต้นสามารถใช้ยาทา เช่น
- กลุ่ม azoles เช่น clotrimazole 1% cream วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ หรือ ketoconazole 2% cream วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์
- กลุ่ม allylamines เช่น terbinafine 1% cream วันละ 1-2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์

กรณีที่รักษาด้วยยาทาแล้วไม่ตอบสนองหรือในกรณีเป็นมากทั้งตัวอาจพิจารณายากิน [4] เช่น
- Terbinafine 250 mg วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ [5]
- Itraconazole 200 mg วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน [6]

แม้ว่าการติดเชื้อราที่ขาหนีบมักมีสาเหตุจากการติดเชื้อกลาก แต่ก็อาจเกิดจากเชื้อเกลื้อนได้ ดังนั้น การเลือกใช้ยาจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ และนอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว แนะนำให้ผู้ป่วยปรับการปฏิบัติตัวร่วมด้วย เช่น สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หลังจากออกกำลังกายหรือเมื่อมีเหงื่อออกควรเช็ดให้แห้งและเปลี่ยนเสื้อผ้าหรืออาบน้ำทันที [1]

เอกสารอ้างอิง
[1]. สถาบันโรคผิวหนัง. Superficial fungal infection [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567]. สืบค้นได้จาก : https://www.bkhospital.go.th/drugguide/user_data/data_document/CPG_Superficial%20Fungal%20Infection.pdf
[2]. Varada S, Dabade T, Loo DS. Uncommon presentations of tinea versicolor. Dermatol Pract Concept. 2014 Jul 31;4(3):93-6. doi: 10.5826/dpc.0403a21.
[3]. Goldstein AO, Goldstein BG. Tinea versicolor (pityriasis versicolor) [Internet]. Philadelphia: Wolters Kluwer; 2024 [cited 17 Oct 2024]. Available from: https://www.uptodate.com/
[4]. Goldstein AO, Goldstein BG. Dermatophyte (tinea) infections [Internet]. Philadelphia: Wolters Kluwer; 2024 [cited 16 Oct 2024]. Available from: https://www.uptodate.com/
[5]. Terbinafine. In: Lexi-drugs online [database on the Internet]. Waltham (MA): UpToDate Inc.; 2024 [updated 14 Oct 2024; cited 16 Oct 2024]. Available from: https://online.lexi.com
[6]. Itraconazole. In: Lexi-drugs online [database on the Internet]. Waltham (MA): UpToDate Inc.; 2024 [updated 16 Oct 2024; cited 16 Oct 2024]. Available from: https://online.lexi.com/

วันที่ตอบ : 18 ต.ค. 67 - 20:26:04




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110