ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
สามารถเริ่มยา antiretroviral ในผู้ป่วย HIV ขณะที่ CD4+ สูงๆ (400-800) ได้หรือไม่

สามารถเริ่มยา antiretroviral ในผู้ป่วย HIV ขณะที่ CD4+ สูงๆ (400-800) ได้หรือไม่

[รหัสคำถาม : 155] วันที่รับคำถาม : 01 ธ.ค. 63 - 13:32:22 ถามโดย : บุคคลทั่วไป

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

จากแนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อ HIV ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2560[1] และต่างประเทศ[2] แนะนำให้เริ่มยาต้านไวรัสในผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกราย และให้เริ่มยาต้านไวรัสทันทีหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV โดยไม่ต้องพิจารณาระดับ CD4 ประโยน์จากการใช้ยาต้านไวรัส คือ ลดอัตราการเสียชีวิตและการเจ็บป่วย ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ สำหรับผู้ป่วยที่มีระดับ CD4 มากกว่า 500 cells/mm3 แนะนำให้เริ่มยาต้านไวรัสเพื่อหวังผลในการป้องกันเชิงสาธารณสุข เช่น ในกรณีที่มีคู่ผลเลือดเป็นลบ หรือป้องกันการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก[1] พบว่า หากผู้ติดเชื้อเริ่มใช้ยาต้านไวรัสในขณะที่มีระดับ CD4 น้อยกว่า 350 cells/mm3 เมื่อใช้ยาต้านไวรัสเป็นระยะเวลา 10 ปี ระดับ CD4 มักจะมีค่าน้อยกว่า 500 cells/mm3 และระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่น้อยกว่าผู้ป่วยที่เริ่มใช้ยาต้านไวรัสในขณะที่มีระดับ CD4 สูง[2]
มีหลายการศึกษาที่สนับสนุนการเริ่มยาต้านไวรัสขณะที่ยังคงมี CD4 สูง เช่น จาก multicontinental randomized controlled trials ซึ่งเปรียบเทียบการเริ่มยาต้านไวรัสในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ที่มีระดับ CD4 มากกว่า 500 cells/mm3 ที่ไม่มีอาการแสดง โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) กลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสทันที
2) กลุ่มที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสจนกว่าระดับ CD4 ลดลงจนเหลือ 350 cells/mm3 หรือเกิดความผิดปกติที่สัมพันธ์กับเอดส์ หรือภาวะอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส เช่น หญิงตั้งครรภ์ พบว่า กลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสทันทีจะเกิดวัณโรคหรือมีความผิดปกติที่สัมพันธ์กับเอดส์น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสทันที 0.43 เท่า (HR=0.43, 95% CI 0.30–0.62, P<0.001)[3]
อีกหนึ่งการศึกษาในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ที่มีระดับ CD4 น้อยกว่า 800 cells/mm3 จำนวน 2,056 คน โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) กลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสทันที 2) กลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสและยา isoniazid ทันที 3) กลุ่มที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสทันที และ 4) กลุ่มที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสและยา isoniazid ทันที โดยประเมินผลลัพธ์หลักจากการเสียชีวิตหรือความเจ็บป่วยที่รุนแรงที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ HIV (Death or severe HIV-related illness) พบว่า กลุ่มที่ได้รับยาต้านไวรัสทันที (กลุ่ม 1 และ 2) จะเสียชีวิตหรือมีความเจ็บป่วยที่รุนแรงที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ HIV น้อยกว่ากลุ่ม 3 และกลุ่ม 4 (HR=0.56, 95% CI 0.41–0.76) และเมื่อพิจารณาเฉพาะผู้ป่วยที่มีระดับ CD4 น้อยกว่า 500 cells/mm3 หรือผู้ป่วยที่มีระดับ CD4 มากกว่า 500 cells/mm3 ผลการศึกษาเป็นในทำนองเดียวกัน โดยมี HR=0.56 (95% CI 0.38–0.83) และ HR=0.56 (95% CI 0.33–0.94) ตามลำดับ[4]
โดยสรุป ในปัจจุบันการใช้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV แนะนำให้เริ่มยาต้านไวรัสในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ทุกราย โดยไม่ต้องพิจารณาระดับ CD4 และควรเริ่มยาต้านไวรัสเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV การเริ่มใช้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยที่มีระดับ CD4 สูง โอกาสที่จะเกิดการเสียชีวิตหรือความผิดปกติที่สัมพันธ์กับโรคเอดส์น้อยกว่าผู้ป่วยเริ่มยาเมื่อมีระดับ CD4 ต่ำ

เอกสารอ้างอิง
1. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอช,จาก http://www.thaiaidssociety.org/images/PDF/hiv_guideline_2560.pdf
2. Panel on Antiretroviral Guidelines for Adults and Adolescents. Guidelines for the Use of Antiretroviral Agents in Adults and Adolescents with HIV. Department of Health and Human Services. Available at http://www.aidsinfo.nih.gov/ContentFiles/AdultandAdolescentGL.pdf. Access [2020 July 9]
3. INSIGHT START Study Group, Lundgren JD, Babiker AG, Gordin F, Emery S, Grund B, et al. Initiation of Antiretroviral Therapy in Early Asymptomatic HIV Infection. N Engl J Med. 2015 Aug 27;373(9):795-807.
4. TEMPRANO ANRS 12136 Study Group, Danel C, Moh R, Gabillard D, Badje A, Le Carrou J, et al. A Trial of Early Antiretrovirals and Isoniazid Preventive Therapy in Africa. N Engl J Med. 2015 Aug 27;373(9):808-22

วันที่ตอบ : 01 ธ.ค. 63 - 13:35:28




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110