ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
การรักษา endometriosis ในผู้ป่วยอายุเกิน 50 ปี

ผู้ป่วยอายุ 50 ปี เคยตรวจพบ endometriosis เมื่ออายุ 42 ปี และแพทย์ได้สั่งจ่ายยา marvelon28 ในการรักษา ผู้ป่วยแจ้งว่ารับประทานยามาตลอด เพราะเคยหยุดยาแล้วมีอาการเวียนหัว จึงอยากทราบว่า 1.ผู้ป่วยอายุ 50 ปี ควรหยุดยาคุมกำเนิด แล้วเปลี่ยนวิธีการรักษาอื่นหรือไม่ ควร manage อย่างไร 2.ผู้ป่วยมีอาการเวียนหัวหลังหยุดยาคุมมีโอกาสเกืดจากอะไรได้บ้างคะ เป็นไปได้ไหมว่าเป็นอาการ postmenopause symtomps ถ้าใช่จะ manage อย่างไรคะ ถ้าให้ HRT แบบ continuous continuous ได้ไหมคะจะกระตุ้น endometriosis ไหมคะ

[รหัสคำถาม : 289] วันที่รับคำถาม : 28 ต.ค. 64 - 21:07:55 ถามโดย : บุคลากร วิทยาศาสตร์สุขภาพ

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

อายุโดยเฉลี่ยของผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (Menopause) คือ 51 ปี ซึ่งจะเป็นช่วงที่ขาดประจำเดือนติดต่อกันเป็นเวลา 12 เดือน หากมีรอบเดือนขาดแต่ไม่ขาดติดต่อกันนาน 12 เดือน จะจัดอยู่ในช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน (Perimenopause) เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือนการทำงานของรังไข่จะลดลง ระดับ estrogen ลดลง ส่งผลให้เกิดเปลี่ยนแปลง neurobiochemical ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง อาการทาง vasomotor เช่น อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน นอนหลับไม่สนิท ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ถึง 75 % ในผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงหมดประจำเดือน[1],[2]

ผู้หญิงที่ได้รับ COCs (Combined Oral Contraceptives) ในวัยใกล้หมดประจำเดือน ไม่สามารถแยกช่วงหมดประจำเดือนได้ชัดจากการขาดประจำเดือน เนื่องจากยา COCs สามารถควบคุมอาการทาง Vasomotor และควบคุมรอบเดือนได้ ดังนั้นผู้หญิงที่รับประทานยา COCs อาจมีเลือดออกตามปกติแม้จะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนก็ตาม[4] แต่เมื่อหยุดยาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แล้ววัดค่าระดับ FSH และ estradiol ถ้าระดับ FSH สูง และ estradiol ต่ำ หรือหยุดยาแล้วมีอาการของวัยหมดประจำเดือน แสดงว่าผู้หญิงรายนั้นได้เข้าสู่วัยใกล้หมดประจำเดือนหรือวัยหมดประจำเดือน[6]

เนื่องจากคำถามข้างต้นไม่ได้ระบุถึงอายุในการเกิดอาการ หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงใกล้อายุ 50 ปี หรือบางรายอาจมีอาการได้ตั้งแต่ 45-55 ปี ซึ่งเป็นอายุในช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน ผู้ป่วยรายนี้ที่ได้รับยา Marvelon 28 (Desogestrel 0.15 mg+Ethinylestradiol 0.03 mg) ซึ่งเป็นยา COCs ที่มีผลบดบังอาการวัยหมดประจำเดือน การที่ผู้ป่วยหยุดยาคุมกำเนิดแล้วมีอาการเวียนศีรษะอาจเป็นอาการทาง Vasomotor ที่สัมพันธ์กับช่วงวัยหมดประจำเดือนได้

เพื่อลดความเสี่ยงอื่นๆจากการได้รับ Estrogen ในปริมาณที่สูงจากการใช้ยา COCs จึงแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้ฮอร์โมนทดแทน (HRT) ที่มีปริมาณ Estrogen ต่ำกว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัยจากการใช้ยามากยิ่งขึ้น[4] หากพิจารณาเปรียบเทียบขนาด Estrogen ใน COCs และ HRTแล้ว พบว่าปริมาณ Estrogen ใน COCs จะสูงกว่ายาในกลุ่มฮอร์โมนทดแทน (HRT) 4-7 เท่า[3] โดยความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหากได้รับ estrogen ในปริมาณที่สูงสามารถทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิด Breast cancers ความเสี่ยงในการเกิด VTE และความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดงได้[5]

ในผู้ป่วยที่มีประวัติภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) ตามแนวทางทางESHRE ปี 2022 แนะนำฮอร์โมนทดแทน (HRT) สำหรับผู้ที่มีอาการในวัยหมดประจำเดือน เป็นฮอร์โมน Estrogen-Progestogen ร่วมกัน หลีกเลี่ยงการใช้ฮอร์โมน Estrogen เพียงอย่างเดียวในการรักษาสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีประวัติภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื่องจากการใช้ฮอร์โมน Estrogen ชนิดเดี่ยวจะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก[7] และแนะนำให้ใช้ HRTชนิดฮอร์โมน Estrogen ร่วมกับ Progestinแบบต่อเนื่อง (continuous combined progestin-estrogen therapy) เนื่องจากจะได้รับฮอร์โมน Progestinต่อเนื่องมีผลดีต่อการป้องกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้[8]

ดังนั้นสำหรับผู้ป่วยรายนี้ควรได้รับการเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษาในช่วงวัยหมดประจำเดือน เพื่อรักษาอาการจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่และอาการในช่วงวัยหมดประจำเดือน จากยา COCs เป็นยาฮอร์โมนทดแทน (HRT) เพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับ estrogen ในขนาดสูง และเลือก HRT ชนิดรวม Estrogen-Progestogen แบบต่อเนื่อง (continuous combined progestin-estrogen therapy) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis)

เอกสารอ้างอิง:
[1]. Monteleone P, Mascagni G, Giannini A, Genazzani AR, Simoncini T. Symptoms of menopause - global prevalence, physiology and implications. Nat Rev Endocrinol. 2018 Apr;14(4):199-215. doi: 10.1038/nrendo.2017.180. Epub 2018 Feb 2. PMID: 29393299.
[2]. Stuenkel CA, Davis SR, Gompel A, Lumsden MA, Murad MH, Pinkerton JV, Santen RJ. Treatment of Symptoms of the Menopause: An Endocrine Society Clinical Practice Guideline. J Clin Endocrinol Metab. 2015 Nov;100(11):3975-4011. doi: 10.1210/jc.2015-2236. Epub 2015 Oct 7. PMID: 26444994.
[3]. Kirk JM, Wickramasuriya N, Shaw NJ. Estradiol: micrograms or milligrams. Endocrinol Diabetes Metab Case Rep. 2016;2016:150096. doi: 10.1530/EDM-15-0096. Epub 2016 Jan 6. PMID: 26843960; PMCID: PMC4738193.
[4]. Cho MK. Use of Combined Oral Contraceptives in Perimenopausal Women. Chonnam Med J. 2018 Sep;54(3):153-158. doi: 10.4068/cmj.2018.54.3.153. Epub 2018 Sep 27. PMID: 30288370; PMCID: PMC6165915.
[5]. Stanczyk FZ, Archer DF, Bhavnani BR. Ethinyl estradiol and 17β-estradiol in combined oral contraceptives: pharmacokinetics, pharmacodynamics and risk assessment. Contraception. 2013 Jun;87(6):706-27. doi: 10.1016/j.contraception.2012.12.011. Epub 2013 Jan 8. PMID: 23375353.
[6]. KOVÁCS, L. (2003), Oral Contraception Over the Age of 40. Annals of the New York Academy of Sciences, 997: 194-198. https://doi.org/10.1196/annals.1290.022.
[7]. Becker CM, Bokor A, Heikinheimo O, Horne A, Jansen F, Kiesel L, King K, et al; ESHRE Endometriosis Guideline Group. ESHRE guideline: endometriosis. Hum Reprod Open. 2022 Feb 26;2022(2):hoac009. doi: 10.1093/hropen/hoac009. PMID: 35350465; PMCID: PMC8951218.
[8]. Weiderpass E, Adami HO, Baron JA, Magnusson C, Bergström R, Lindgren A, Correia N, Persson I. Risk of endometrial cancer following estrogen replacement with and without progestins. J Natl Cancer Inst. 1999 Jul 7;91(13):1131-7. doi: 10.1093/jnci/91.13.1131. PMID: 10393721.

วันที่ตอบ : 25 ก.ย. 67 - 16:58:29




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110