ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
กินยาไทรอยด์เป็นพิษสามารถให้นมลูกได้ไหม

ยาที่กินมียาไทรอยด์ methimazole 5 mg กินวันละ3 เม็ดหลังอาหารเช้าครั้งเดียว เท่ากับ 15 mg/วัน และยาแก้ใจสั่น ลดความดันpropranolol 110 mg 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น 20 mg/วัน อยากทราบว่าให้นมลูกได้ไหม อันตรายไหม แล้วสามารถกินยาก่อนหรือหลังให้นมลูกกี่ชม.

[รหัสคำถาม : 342] วันที่รับคำถาม : 11 ม.ค. 65 - 15:24:59 ถามโดย : บุคลากร วิทยาศาสตร์สุขภาพ

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (hyperthyroidism) เกิดจากการมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ที่ผลิตจากต่อมไทรอยด์ในกระแสเลือดสูงกว่าปกติ ได้แก่ Triiodothyronine: T3 และ Thyroxine: T4 ซึ่งในระหว่างตั้งครรภ์ จะมีการผลิต Thyroxine (T4) และ Triiodothyronine (T3) เพิ่มขึ้นเกือบ 50%
ซึ่งจะส่งผลให้ ผู้ป่วย มีอาการแสดง ได้แก่ ใจสั่น มือสั่น เหนื่อยง่าย กินเยอะแต่น้ำหนักลด ขี้หงุดหงิด เหงื่อออกมาก ยาที่ใช้รักษาจะเป็นกลุ่ม thionamides ซึ่งที่มีใช้ในประเทศไทย คือ propylthiouracil (PTU) และ methimazole (MMI) โดยในการตั้งครรภ์จะใช้ขนาดยา propylthiouracil (PTU) 200-400 มิลลิกรัม แบ่งให้วันละ3 ครั้งและ methimazole (MMI) ในขนาด 10-20 มิลลิกรัมต่อวัน วันละครั้ง พบผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงจากการใช้ยาทั้งสองชนิด โดยพบประมาณร้อยละ 1-5 เช่น อาการคันตามตัว และผื่นแดง ปวดข้อ สำหรับ PTU อาจพบผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ที่สำคัญ คือ ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (agranulocytosis) ซึ่งจะเกิดแบบไม่ขึ้นกับปริมาณยา และภาวะตับอักเสบ[1]
ทั้ง MMI และ PTU จัดเป็น Pregnancy Category D หมายถึง มีหลักฐานเชิงเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ของมนุษย์ แต่ประโยชน์จากการใช้ยาในสตรีมีครรภ์อาจเป็นที่ยอมรับได้แม้ว่าจะมีความเสี่ยง ซึ่งมักจะเป็นการใช้ยาเพื่อช่วยชีวิตมารดาหรือเป็นการใช้ยาเพื่อรักษาโรคที่รุนแรงซึ่งไม่มียาอื่นที่ปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ[2] การใช้ยา MMI ขณะตั้งครรภ์โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรก (ช่วงอายุครรภ์ 6-10 สัปดาห์) จะก่อให้เกิดทารกวิรูปได้โดยเฉพาะเมื่อใช้ในขนาดสูง ≥15 มิลลิกรัมต่อวัน ความผิดปกติของทารกที่พบ ได้แก่ ภาวะไม่มีผิวหนังปกคลุมแต่กำเนิด (aplasia cutis congenita) ความผิดปกติบริเวณกะโหลกศีรษะและใบหน้าแต่กำเนิด (craniofacial malformations) ความพิการแต่กำเนิดของผนังหน้าท้องบริเวณ (exomphalos) และภาวะหลอดอาหารตีบตันแต่กำเนิด (esophageal atresia)[3] ทั้งยา MMI และ PTU สามารถผ่านน้ำนมได้ แต่ยังสามารถใช้ในผู้ป่วยที่กำลังให้นมบุตรได้ด้วยการปรับขนาดยาลง โดยให้ MMI ในขนาด 20-30 มิลลิกรัมต่อวัน และ PTU ในขนาดยาไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นขนาดยาที่ไม่มีผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ในทารกที่ดื่มนมแม่ ร่วมกับการติดตามการทํางานของต่อมไทรอยด์ในทารก รวมทั้งการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสมของทารก อย่างไรก็ตามเนื่องจากผลข้างเคียงของยา PTU ที่ก่อให้เกิดภาวะตับอักเสบได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกยา MMI ในหญิงให้นมบุตรโดยแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาทันทีหลังให้นมบุตร หรือ 3-4 ชั่วโมงก่อนให้นมบุตร[4,5]

เอกสารอ้างอิง
[1]. Erik K. Alexander, Elizabeth N. Pearce, Gregory A. Brent, Rosalind S. Brown, Herbert Chen,Chrysoula Dosiou,et al. 2017 Guidelines of the American Thyroid Association for the Diagnosis and Management of Thyroid Disease During Pregnancy and the Postpartum.Thyroid. 2017; 27:345-347.doi.org/10.1089/thy.2016.0457.
[2]. MIMS Online Thailand. Antithyroid drug [Internet]. 2016. Available from:
https://www.mims.com/thailand/drug/info/propylthiouracil.
[3]. Kahaly GJ , Bartalena L, Hegedüs L, Leenhardt L,Poppe K, Pearce SH. 2018 European Thyroid Association Guideline for the Management of Graves’ Hyperthyroidism. Eur. Thyroid. J.2018;7:177-178.
doi.org/10.1159/000490384.
[4]. Azizi F. Thyroid function in breast-fed infants is not affected by methimazole-induced maternal hypothyroidism: results of a retrospective study. J. Endocrinol. Invest. 2003 Apr;26(4):301-4.
doi: 10.1007/BF03345176. PMID: 12841536.
[5]. Karras S ,Krassas GE. Breastfeeding and Antithyroid Drugs. Eur. Thyroid. J.2012;1: 30-3.
doi.org/10.1159/000336595.

วันที่ตอบ : 25 ม.ค. 65 - 14:11:53




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110