ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
เรื่องหนองในแท้ ผมเป็นมานาน 20 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นเลยครับ และยังมีเลือดออกจ

เรื่องหนองในแท้ ผมเป็นมานาน 20 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นเลยครับ และยังมีเลือดออกจากอวัยวะด้วยครับ เพิ่งได้ 2 วันที่มีเลือดออกนะครับ (ผมไปพบแพทย์มาแล้ว)

[รหัสคำถาม : 43] วันที่รับคำถาม : 23 ม.ค. 63 - 15:24:11 ถามโดย : บุคคลทั่วไป

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

โรคหนองในแท้ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย N. Gonorrhea โรคนี้มีระยะฟักตัว 1-14 วัน ในเพศชายมักมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ ในบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ลูกอัณฑะอักเสบ ฝีที่บริเวณอวัยวะเพศ ส่วนในเพศหญิงอาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการ ตกขาวผิดปกติ ไม่คัน ในบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบ ทั้งนี้ พบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคหนองในแท้จะติดเชื้อหนองในเทียมร่วมด้วย[1,2]

โรคหนองในเทียม เกิดจากการติดเชื้อ Chlamydia trachomatis มีระยะฟักตัว 7-35 วัน ในเพศชายมักมีอาการปัสสาวะแสบขัด พบมูกใสหรือมูกขุ่น คันที่ท่อปัสสาวะ ส่วนในเพศหญิง ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ แต่บางรายอาจมีตกขาว และตรวจพบปากมดลูกอักเสบ[1,2]

ตามแนวทางการดูแลรักษาโรคหนองในของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2562 ในกรณีที่เป็นหนองในชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะเพศ แนะนำให้ใช้ยา ceftriaxone 500 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว ร่วมกับการรักษาหนองในเทียมร่วมด้วยโดยใช้ยารับประทาน azithromycin 1 g ครั้งเดียว ส่วนยาทางเลือก คือ cefixime 400 mg รับประทานครั้งเดียวร่วมกับการรักษาหนองในเทียมโดยใช้ยารับประทาน azithromycin 1 g ครั้งเดียว ซึ่งหลังจากรักษา อาการควรหายเกือบสนิทใน 24 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาตรวจหาสาเหตุ ทั้งนี้ควรรักษาคู่นอนร่วมด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 7 วันหลังการรักษาเสร็จสิ้น[2]

กรณีที่อาการของโรคหนองในยังคงอยู่หลังทำการรักษาแล้ว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อซ้ำ การรักษาล้มเหลวเนื่องจากการดื้อยา มีการติดเชื้อชนิดอื่นร่วมด้วย หรือไม่ได้รับการรักษาหนองในเทียมควบคู่ไปกับการรักษาหนองในแท้ รวมทั้งอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ดังนั้น หากอาการของโรคหนองในยังคงอยู่หลังทำการรักษาแล้ว รวมทั้งมีเลือดออกจากอวัยวะ ควรกลับไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อประเมินหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ลูกอัณฑะอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้[2,3]



เอกสารอ้างอิง
1. Dipiro JT, Talbert RL, Yee GC, Matzke GR, Weels BG, Posey LM. Pharmacotherapy: A Pathophysiologic Approach. Edition 10th. The McGraw- Hill Companies, Inc. 2017:1846-55.
2. สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดูแลรักษาโรคหนองใน พ.ศ. 2562. [อินเทอร์เน็ต]. 2562. [เข้าถึงเมื่อ 7 มกราคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: http://aidssti.ddc.moph.go.th/medias/view/132/574.
3. Centers for Disease Control and Prevention. Sexually transmitted diseases treatment guidelines, [Internet]. 2015. [Assessed on 2020 Jan 7]. Available from: https://www.cdc.gov/std/tg2015/default.htm.
4. Yang J, Dhital S, Naderer T. Efficacy and Safety of Injectable and Oral
Antibiotics in Treating Gonorrhea: A Systematic Review and Network Meta-Analysis. J Clin Med. 2019 Dec 11;8(12). 31835724.
5. Heidi Swygard, MPHArlene C Seña, MPHMyron S Cohen. Treatment of uncomplicated Neisseria gonorrhoeae infections [Internet]. Waltham (MA): UpToDate; 2014 [cited 2020 Jan 7]. Available from: http://www.uptodate.com
6. Barry D Weiss, Jerome P Richie. Hematospermia [Internet]. Waltham (MA): UpToDate; 2014 [cited 2020 Jan 7]. Available from: http://www.uptodate.com


วันที่ตอบ : 28 ม.ค. 63 - 13:32:01




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110