ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
แพ้ยา phenytoin

แพ้ยา phenytoin แบบ mp rash จะใช้ยากันชักตัวไหนได้บ้าง

[รหัสคำถาม : 440] วันที่รับคำถาม : 09 ธ.ค. 65 - 14:25:39 ถามโดย : บุคลากร วิทยาศาสตร์สุขภาพ

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

Phenytoin จัดเป็นยากันชักในกลุ่ม aromatic antiepileptic drugs (AEDs) ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ทางผิวหนังตั้งแต่ระดับเล็กน้อย เช่น maculopapular (MP) rash ไปจนถึงอาการรุนแรง (serious cutaneous adverse reactions; SCARs) เช่น Stevens-Johnson syndrome (SJS) หรือ toxic epidermal necrolysis (TEN) ยากันชักอื่นที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ เช่น phenobarbital, carbamazepine, lamotrigine, oxcarbazepine เป็นต้น [1] สมมติฐานของการเกิดการแพ้ยาในกลุ่ม aromatic AEDs คือการที่วงแหวน aromatic จะถูก metabolize เป็น arene oxide ผ่าน cytochrome P-450 โดย arene oxide จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันของร่างกายและก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ [2-4]

การศึกษาของ Hirsch และคณะ ในปี ค.ศ. 2008 เก็บข้อมูลย้อนหลังในผู้ป่วยโรคลมชักและได้รับยากันชักจำนวน 1,875 คน พบว่ายากันชัก 6 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดผื่นมากที่สุด คือ carbamazepine, lamotrigine, oxcarbazepine, phenobarbital, phenytoin และ zonisamide โดยมีผู้ป่วย 14.3% เกิดผื่นหลังจากได้รับยากันชักอย่างน้อย 1 ชนิด และมีผู้ป่วย 2.8% ที่เกิดผื่นจากยากันชักตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป โดยพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับยา phenytoin เกิดการแพ้ข้ามกัน (cross-reactivity) กับยา carbamazepine, lamotrigine และ phenobarbital เท่ากับ 42%, 18.9% และ 19.5% ตามลำดับ [5]

การศึกษาของ Alvestad และคณะ ในปี ค.ศ. 2008 เก็บข้อมูลย้อนหลังในผู้ป่วยโรคลมชักและได้รับยากันชักจำนวน 663 คน ผลพบว่ามีผู้ป่วย 14% ที่เกิดผื่นหลังจากได้รับยากันชักอย่างน้อย 1 ชนิด โดย 97% ของผู้ป่วยกลุ่มนี้เกิดผื่นจากการได้รับยา carbamazepine, phenytoin, lamotrigine, oxcarbazepine หรือ phenobarbital และมีผู้ป่วย 2.7% เกิดผื่นจากยากันชักตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป โดยพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับ phenytoin เกิดการแพ้ข้ามกับยา carbamazepine และ lamotrigine เท่ากับ 44% และ 27% ตามลำดับ [1]

นอกจากปัจจัยด้านกระบวนการเมแทบอลิซึมยาแล้ว พันธุกรรมก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิด SCARs ได้เช่นเดียวกัน จากการศึกษาของ Sukasem และคณะ ในปี ค.ศ. 2021 เก็บข้อมูลย้อนหลังในผู้ป่วยที่ได้รับยากันชักในโรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ถึง 2017 พบว่ามีผู้ป่วยเกิด SCARs จากยากันชักจำนวน 166 คน โดยมียีนที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ คือ HLA-B*15:02 โดยพบในผู้ป่วย จำนวน 46 จาก 166 คน (27.7%) สำหรับยาที่เกี่ยวข้องกับ SCARs จากยีน HLA-B*15:02 อย่างมีนัยสำคัญ คือ carbamazepine และ lamotrigine โดยไม่เกี่ยวข้องกับยา phenytoin [6]

จากการศึกษาข้างต้นจะเห็นได้ว่าอัตราการเกิดการแพ้ข้ามกันในยากลุ่ม aromatic AEDs อยู่ที่ 18-44% [1,4] ดังนั้น หากผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยาในกลุ่ม aromatic AEDs ชนิดรุนแรง SJS หรือ TEN ควรหลีกเลี่ยงยากลุ่มดังกล่าว และพิจารณาใช้ยากลุ่ม non-aromatic AEDs แทน เช่น sodium valproate, gabapentin, topiramate หรือ levetiracetam ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการชักของผู้ป่วย เนื่องจากมีการรายงานความเสี่ยงในการเกิดผื่นต่ำ [7] และปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการศึกษาการแพ้ยาข้ามกันอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่ม aromatic และ non-aromatic AEDs ในกรณีที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ทางผิวหนังเล็กน้อย เช่น MP rash ให้พิจารณาใช้ยากลุ่ม non-aromatic AEDs ก่อนแต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาที่แพ้อาจพิจารณาทำ desensitization [2] หรือหากจำเป็นต้องใช้ยาในกลุ่ม aromatic AEDs ชนิดอื่น จำเป็นต้องได้รับการติดตามอาการผิดปกติของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

เอกสารอ้างอิง
[1]. Alvestad S, Lydersen S, Brodtkorb E. Cross-reactivity pattern of rash from current aromatic antiepileptic drugs. Epilepsy Res. 2008 Aug;80(2-3):194-200. doi: 10.1016/j.eplepsyres.2008.04.003.
[2]. Fowler T, Bansal AS, Lozsádi D. Risks and management of antiepileptic drug induced skin reactions in the adult out-patient setting. Seizure. 2019 Nov;72:61-70. doi: 10.1016/j.seizure.2019.07.003
[3]. Knowles SR, Shapiro LE, Shear NH. Anticonvulsant hypersensitivity syndrome: incidence, prevention and management. Drug Saf. 1999 Dec;21(6):489-501. doi: 10.2165/00002018-199921060-00005.
[4]. Shear NH, Spielberg SP. Anticonvulsant hypersensitivity syndrome. In vitro assessment of risk. J Clin Invest. 1988 Dec;82(6):1826-32. doi: 10.1172/JCI113798.
[5] Hirsch LJ, Arif H, Nahm EA, Buchsbaum R, Resor SR Jr, Bazil CW. Cross-sensitivity of skin rashes with antiepileptic drug use. Neurology. 2008 Nov 4;71(19):1527-34. doi: 10.1212/01.wnl.0000334295.50403.4c.
[6]. Sukasem C, Sririttha S, Chaichan C, Nakkrut T, Satapornpong P, Jaruthamsophon K, et al. Spectrum of cutaneous adverse reactions to aromatic antiepileptic drugs and human leukocyte antigen genotypes in Thai patients and meta-analysis. Pharmacogenomics J. 2021 Dec;21(6):682-690. doi: 10.1038/s41397-021-00247-3.
[7]. Mani R, Monteleone C, Schalock PC, Truong T, Zhang XB, Wagner ML. Rashes and other hypersensitivity reactions associated with antiepileptic drugs: A review of current literature. Seizure. 2019 Oct;71:270-278. doi: 10.1016/j.seizure.2019.07.015.

วันที่ตอบ : 15 ต.ค. 67 - 13:00:37




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110