ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
กินยา amlodipine แล้วขาบวม ให้ furosemide ได้ไหม

ผู้ป่วยใช้ยา amlodipine แล้วเกิดอาการขาบวม สามารถให้ furosemide เพื่อลดอาการขาบวมได้ไหม

[รหัสคำถาม : 474] วันที่รับคำถาม : 02 มี.ค. 66 - 19:04:48 ถามโดย : บุคลากร วิทยาศาสตร์สุขภาพ

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

ยา Amlodipine เป็นยาในกลุ่ม dihydropyridine calcium channel blockers (CCBs) ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาในหลายข้อบ่งใช้ เช่น hypertension, coronary spasm, angina pectoris, pulmonary hypertension เป็นต้น ยาออกฤทธิ์ยับยั้งแคลเซียมเคลื่อนเข้าสู่เซลล์โดยจับกับ L-type voltage-gated calcium channels ที่หัวใจ หลอดเลือด และตับอ่อน โดยยาในกลุ่ม dihydropyridines สามารถลดความดันโลหิตโดยมีผลขยายหลอดเลือดส่วนปลายเป็นหลัก อาการไม่พึงประสงค์ที่พบจากยาในกลุ่ม dihydropyridine CCBs ได้แก่ วิงเวียนศีรษะ (lightheadedness) ปวดศีรษะ (headaches) ขาบวม (peripheral edema) เป็นต้น[1]
.
อาการขาบวม (peripheral edema) พบได้ร้อยละ 2-11 ของผู้ป่วยที่ใช้ยา amlodipine โดยจะเกิดบริเวณข้อเท้าหรือเข่า การเกิดอาการขาบวมสัมพันธ์กับกลไกการออกฤทธิ์ของยา และยังสัมพันธ์กับขนาดยาและระยะเวลาที่ใช้ยา เนื่องยาในกลุ่ม calcium channel blockers มีฤทธิ์ในการทำให้หลอดเลือดแดงคลายตัว (arteriolar vasodilation) นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของ hydrostatic pressure ที่ precapillary circulation ทำให้ของเหลวในหลอดเลือดฝอยเคลื่อนที่ออกจากหลอดเลือดไปยังช่องว่างระหว่างเซลล์ (interstitial space) ทำให้เกิดการบวมขึ้น[1],[2] โดยระยะเวลาที่เกิดอาจแตกต่างกันในแต่ละคน โดยทั่วไปจะเกิดระหว่าง 4 สัปดาห์ถึงมากกว่า 6 เดือนหลังเริ่มใช้ยา ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการขาบวม ได้แก่ การใช้ยาในขนาดสูง (ผู้ป่วยที่ใช้ยาในขนาด 10 มิลลิกรัม พบการบวมที่มากกว่าผู้ป่วยที่ใช้ยาในขนาด 2.5 - 5 มิลลิกรัม) การใช้ยาเป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป และ เพศหญิง[2]
.
การจัดการภาวะขาบวมจากการใช้ยาในกลุ่ม dihydropyridine CCBs คือ 1) การหยุดยาแล้วเปลี่ยนไปใช้ยาในกลุ่มอื่นแทน ภาวะขาบวมสามารถหายได้เองหลังจากหยุดยา[1] 2) เปลี่ยนจากยาในกลุ่ม dihydropyridine CCBs เป็นยาในกลุ่ม non-dihydropyridine CCBs เช่น verapamil หรือ diltiazem หรือเปลี่ยนเป็นยา dihydropyridine CCBs กลุ่มใหม่ ได้แก่ third-generation CCBs เช่น lacidipine, manidipine และ lercanidipine[3] 3) ใช้ยาเพื่อลดอาการบวม โดยยาที่มีการศึกษาว่าสามารถลดการบวมที่เกิดจากการใช้ยากลุ่ม dihydropyridine CCBs ได้ เช่น กลุ่มยาขับปัสสาวะ (ได้แก่ Thiazide-Type Diuretics และ Potassium-Sparing Diuretics) ยาในกลุ่ม angiotensin converting enzyme inhibitor (ACEIs) หรือ angiotensin II receptor blockers (ARBs) และยาในกลุ่ม nitrates[3]
.
จากการศึกษาพบว่าการได้รับยา amiloride 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือ chlorthalidone 50 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นระยะเวลา 5 วันก่อนได้รับยา nifedipine 20 มิลลิกรัม วันละครั้ง ไม่สามารถป้องกันการเกิดอาการขาบวมจากการใช้ยา nifedipine แต่สามารถลดอาการขาบวมที่เกิดจาก nifedipine ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก[4] และมีการศึกษาในอาสาสมัคร 17 รายที่มีภาวะขาบวมหลังจากใช้ยา amlodipine 5 มิลลิกรัมต่อวัน การใช้ยา hydrochlorothiazide 25 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์สามารถลดภาวะขาบวมได้เฉลี่ย 136.3 มิลลิลิตร (ลดลงร้อยละ 11.1) เมื่อเทียบกับก่อนได้รับยา และการใช้ยา Benazepril 20 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์สามารถลดภาวะขาบวมได้เฉลี่ย 204.4 มิลลิลิตร (ลดลงร้อยละ 14.3) เมื่อเทียบกับก่อนได้รับยา ซึ่งวัดการเกิดภาวะบวมโดยใช้ lower extremity water displacement จึงสรุปได้ว่าการใช้ยาในกลุ่ม calcium channel blockers ร่วมกับ angiotensin converting enzyme inhibitor (ACEIs) หรือยาขับปัสสาวะสามารถลดภาวะบวม (lower extremity edema) ได้[5]
.
สรุป จากการสืบค้นไม่พบการศึกษาที่ใช้ยา Furosemide เพื่อลดภาวะบวมจากการใช้ยาในกลุ่ม calcium channel blockers แต่จากการสืบค้นพบว่าการใช้ยากลุ่ม dihydropyridine calcium channel blockers ร่วมกับยากลุ่ม angiotensin converting enzyme inhibitor (ACEIs) หรือยาขับปัสสาวะ (Thiazide-Type Diuretics และ Potassium-Sparing Diuretics) สามารถบรรเทาภาวะบวมที่เกิดจากยากลุ่ม dihydropyridine calcium channel blockers ได้[3],[4],[5]

เอกสารอ้างอิง
[1]. McKeever RG, Hamilton RJ. Calcium Channel Blockers. 2022 Jul 11. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2022 Jan.
[2]. Lexicomp, Inc. amlodipine: Drug information. In:Post TW, ed.UpToDate.Waltham: UpToDate; 2023 (Accessed on Jan. 19, 2023).
[3]. Sica D. Calcium channel blocker-related peripheral edema: can it be resolved? J Clin Hypertens (Greenwich). 2003 Jul.-Aug.;5(4):291-4, 297.
[4]. van der Heijden AG, Huysmans FT, van Hamersvelt HW. Foot volume increase on nifedipine is not prevented by pretreatment with diuretics. J Hypertens. 2004 Feb.;22(2):425-30.
[5]. Weir MR, Rosenberger C, Fink JC. Pilot study to evaluate a water displacement technique to compare effects of diuretics and ACE inhibitors to alleviate lower extremity edema due to dihydropyridine calcium antagonists. Am. J. Hypertens. 2001 Sep.;14(9 Pt 1):963-8.

วันที่ตอบ : 07 มี.ค. 66 - 13:47:59




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110