ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
คอลลาเจน UC-II คืออะไรค่ะ

คอลลาเจน UC-II มีการให้ค่าว่าสามารถช่วยเรืองข้อเสื่อมได้ดีกว่าคอลลาเจนไทวัน -ทู-ทรี โดยอ้างงานวิจัยต่างๆ จริงหรือไม่ค่ะ แล้วคอลลาเจนตัวนี้คืออะไรต่างกับทั้ง 3 ไทอย่างไรค่ะ

[รหัสคำถาม : 478] วันที่รับคำถาม : 08 มี.ค. 66 - 10:25:05 ถามโดย : บุคคลทั่วไป

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้ร่างกาย เช่น ผิวหนัง กระดูก และข้อ เป็นต้น โดยทั่วไปจะพบคอลลาเจนชนิดต่าง ๆ ตามอวัยวะที่จำเพาะต่อหน้าที่ของคอลลาเจน คือ ผิวหนังจะพบคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง ส่วนคอลลาเจนชนิดที่ 2 จะช่วยเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับกระดูกและข้อ[1,2] ผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจนที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมักจะรวมคอลลาเจนทั้ง 3 ชนิดไว้ด้วยกัน โดยรูปแบบของคอลลาเจนชนิดที่ 2 ที่พบในผลิตภัณฑ์จะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ คอลลาเจนชนิดที่ 2 รูปแบบสายสั้นที่ผ่านการแปรสภาพ (hydrolyzed collagen type II; HC–II) และคอลลาเจนชนิดที่ 2 รูปแบบสายยาว (undenatured collagen type II; UC–II)[2,3] ซึ่ง HC–II จะดูดซึมผ่านทางเดินอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า ทำหน้าที่เสริมสร้างเซลล์กระดูกอ่อน (chondrocytes) และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อ ส่วน UC–II จะลดกระบวนการอักเสบของข้อและลดการสลายกระดูก[3,4,5]
...
ในปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบผลของการใช้ HC–II และ UC–II ในการบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม แต่พบเพียงการศึกษาที่เปรียบเทียบผลของการใช้คอลลาเจนเทียบกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงข้อหรือยาหลอก (placebo) โดย Lugo และคณะ[6] ได้ทำการศึกษาเพื่อประเมินประสิทธิภาพของ UC–II ในการลดอาการปวดข้อ ข้อฝืด และความสามารถในการใช้งานข้อด้วยแบบประเมินคะแนนของอาการโรคข้อเสื่อม (total WOMAC score) พบว่า การใช้ UC–II ขนาด 40 มิลลิกรัม สามารถลดคะแนนของอาการข้อเสื่อม (total WOMAC score) ได้ดีกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยคะแนนของอาการโรคข้อเสื่อมในกลุ่มที่ได้รับ UC–II และกลุ่มที่ได้รับยาหลอกลดลงเฉลี่ย 551 คะแนน และ 414 คะแนน ตามลำดับ [95% CI –232 to –42, p=0.002] โดยพบผลเช่นเดียวกันเมื่อเทียบผลของการได้รับ UC–II กับการได้รับกลูโคซามีน (glucosamine hydrochloride) ขนาด 1,500 มิลลิกรัม ร่วมกับคอนดรอยติน (chondroitin sulfate) ขนาด 1,200 มิลลิกรัม โดยมีคะแนนของอาการโรคข้อเสื่อมลดลง 551 และ 454 คะแนน ตามลำดับ [95% CI –190 to –3, p=0.04] และไม่พบอาการข้างเคียงที่รุนแรง ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของ Chen และคณะ[7] ซึ่งทำการประเมินผลการลดลงของคะแนนแสดงอาการปวด (visual analogue pain score; VAS) จากการใช้ HC–II ขนาด 2 กรัม พบว่า สามารถลดคะแนนแสดงอาการปวด (VAS) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับการได้รับยาหลอก [–1.3, 95% CI –2.51 to –0.13, p=0.021] ส่วน García-Coronado และคณะ[8] พบว่า คอลลาเจนชนิดที่ 2 ทั้ง 2 รูปแบบ สามารถลดคะแนนของอาการโรคข้อเสื่อมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับยาหลอก [–8.0, 95% CI –13.04 to –2.95, p=0.002] แต่ไม่พบมีความแตกต่างในด้านการลดอาการปวดและการลดข้อฝืด นอกจากนี้ Schön และคณะ[9] พบว่า UC–II ขนาด 40 มิลลิกรัม เพิ่มความยืดหยุ่นในการงอเข่าและเหยียดเข่าได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับการได้รับยาหลอก
...
ดังนั้น คอลลาเจนชนิดที่ 2 ทั้ง 2 รูปแบบมีประสิทธิภาพในการช่วยลดอาการของโรคข้อเสื่อมได้ โดยควรได้รับคอลลาเจนชนิด HC–II ขนาด 2 – 10 กรัมต่อวัน อย่างน้อย 10 – 48 สัปดาห์[7,8] ส่วนคอลลาเจนชนิด UC–II ควรได้รับขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างน้อย 6 เดือน[6,8] โดยในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของ UC-II และ HC–II ที่จำหน่ายในประเทศไทยหลากหลายจึงควรตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์ที่แสดงส่วนประกอบและปริมาณและควรได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวควรใช้ภายใต้คำแนะนำและการติดตามอาการของโรคโดยแพทย์หรือเภสัชกรอย่างใกล้ชิด
...
เอกสารอ้างอิง
[1]. León-López A, Morales-Peñaloza A, Martínez-Juárez VM, Vargas-Torres A, Zeugolis DI, Aguirre-Álvarez G. Hydrolyzed Collagen-Sources and Applications. Molecules. 2019;24(22):4031.
[2]. Davison-Kotler E, Marshall WS, García-Gareta E. Sources of Collagen for Biomaterials in Skin Wound Healing. Bioengineering (Basel). 2019;6(3):56.
[3]. Martínez-Puig D, Costa-Larrión E, Rubio-Rodríguez N, Gálvez-Martín P. Collagen Supplementation for Joint Health: The Link between Composition and Scientific Knowledge. Nutrients. 2023;15(6):1332.
[4]. de Almagro MC. The Use of Collagen Hydrolysates and Native Collagen in Osteoarthritis. Am J Biomed Sci Res. 2020 Mar 6;7(6):530–2.
[5]. Xu R, Wu J, Zheng L, Zhao M. Undenatured type II collagen and its role in improving osteoarthritis. Ageing Res Rev. 2023;91:102080.
[6]. Lugo JP, Saiyed ZM, Lane NE. Efficacy and tolerability of an undenatured type II collagen supplement in modulating knee osteoarthritis symptoms: a multicenter randomized, double-blind, placebo-controlled study. Nutr J. 2016;15:14.
[7]. Chen CC, Chang SS, Chang CH, Hu CC, Nakao Y, Yong SM, et al. Randomized, double-blind, four-arm pilot study on the effects of chicken essence and type II collagen hydrolysate on joint, bone, and muscle functions. Nutr J. 2023;22(1):17.
[8]. García-Coronado JM, Martínez-Olvera L, Elizondo-Omaña RE, Acosta-Olivo CA, Vilchez-Cavazos F, Simental-Mendía LE, et al. Effect of collagen supplementation on osteoarthritis symptoms: a meta-analysis of randomized placebo-controlled trials. Int Orthop. 2019;43(3):531-538
[9]. Schön C, Knaub K, Alt W, Durkee S, Saiyed Z, Juturu V. UC-II Undenatured Type II Collagen for Knee Joint Flexibility: A Multicenter, Randomized, Double-Blind, Placebo-Controlled Clinical Study. J Integr Complement Med. 2022;28(6):540-548.

วันที่ตอบ : 12 ม.ค. 67 - 14:25:48




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110