ให้บริการโดยคณาจารย์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสุขภาพ


คำชี้แจง "เว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการ ศึกษา การแลกเปลี่ยนความรู้ และให้ข้อมูลเรื่องยาในกรณีทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์หรือเพื่อการรักษาในกรณีที่จำเพาะเจาะจง และความเห็นสำหรับกรณีเฉพาะหนึ่ง จะไม่สามารถประยุกต์ใช้กับผู้อื่นได้โดยตรง หากมีปัญหาเรื่องโรคโปรดปรึกษาแพทย์ หากมีปัญหาเรื่องยา โปรดปรึกษาเภสัชกร หรือปรึกษาผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนั้นด้วยตนเองเท่านั้น"

Search :
การเพิ่มขึ้นของ serum transaminase จาก INH และ Rifampicin

หากเกิดพิษต่อตับจากยาทั้ง 2 ในผู้ป่วยวัณโรค แต่ไม่มียา streptomycin ให้ฉีด มีวิธีการจัดการเรื่องยายังไงบ้างครับหรือมียาตัวอื่นแทนมั้ยครับระหว่างการรักษา

[รหัสคำถาม : 591] วันที่รับคำถาม : 29 เม.ย. 67 - 11:11:47 ถามโดย : บุคลากร วิทยาศาสตร์สุขภาพ

เข้าระบบเพื่อตอบคำถาม

No : 1

การรักษาวัณโรคมีการใช้ยาร่วมกันอย่างน้อย 4 ชนิด ได้แก่ isoniazid (H), rifampicin (R), pyrazinamide (Z) และ ethambutol (E) ทำให้มีโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาได้สูง โดยเฉพาะการเกิดพิษต่อตับ จากแนวทางการรักษาวัณโรคปี 2564 มีคำแนะนำสำหรับภาวะตับอักเสบจากยาต้านวัณโรคที่มี total bilirubin > 3 mg/dL แต่ Aspartate Transaminase (AST)/ Alanine Transminase (ALT) อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเพิ่มขึ้น ไม่เกิน 3 เท่า ควรหยุดเฉพาะ rifampicin หรือหากค่า AST/ALT > 5 เท่าของค่าปกติ แนะนำให้หยุดยา isoniazid, rifampicin และ pyrazinamide[1] และใช้ยาต้านวัณโรคที่มีพิษต่อตับต่ำ ได้แก่ ethambutol (E), fluoroquinolone (Fx) และ amikacin(Am)[1,2] หรือ ethambutol, streptomycin (S) และยากลุ่ม fluoroquinolone (Fx)[3] จากนั้นทำการให้ยาที่สงสัยอีกครั้งเพื่อหาว่ายาชนิดใดเป็นสาเหตุของการเกิดพิษต่อตับ โดยเริ่มเมื่อ AST/ALT ลดลงจน < 2 เท่าของค่าปกติและ total bilirubin ลดลงจน < 1.5 mg/dL และเรียงการให้ยาจาก isoniazid, rifampicin และ pyrazinamide ตามลำดับ สามารถเริ่มจากขนาดยาปกติ เว้นระยะห่างของการให้ยาแต่ละชนิดนาน 1 สัปดาห์แล้วเจาะเลือดดูค่า AST/ALT และ total bilirubin หากสูงขึ้นตามเกณฑ์ก่อนหน้า ให้หยุดยาชนิดนั้นแล้วห้ามใช้ยาชนิดนั้นอีก[1] ถ้าภาวะตับอักเสบเกิดจาก rifampicin ให้ใช้ isoniazid + ethambutol + streptomycin นาน 2 เดือน ต่อด้วย isoniazid+ ethambutol นาน 10 เดือน หากเป็น isoniazid ให้ใช้ rifampicin + pyrazinamide+ethambutol นาน 6-9 เดือน หากเป็น pyrazinamide ใช้ isoniazid + rifampicin + ethambutol นาน 2 เดือน ต่อด้วย isoniazid+rifampicin นาน 7 เดือน และถ้าเป็น isoniazid และ rifampicin ให้ใช้ streptomycin + ethambutol + fluoroquinolone นาน 18-24 เดือน[1,3]

streptomycin และ amikacin เป็นยาในกลุ่ม aminoglycosides ที่ใช้รักษาวัณโรคในผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขี้นไปที่มีการแนะนำในแนวทางการรักษาวัณโรคของประเทศไทยปี 2564 หากไม่สามารถใช้ streptomycin อาจพิจารณาใช้ amikacin โดยจะต้องมีผลทดสอบความไวของยาก่อน[1] และงานวิจัยเปรียบเทียบระหว่าง amikacin และ streptomycin พบว่า ผู้ที่ใช้ยา amikacin หายจากวัณโรคมากกว่า streptomycin อย่างมีนัยสำคัญ (OR 1.7, 95%CI 1.3-2.2) และเมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายจากโรคต่อ 100 รายพบว่า amikacin มีผลให้ผู้ป่วยหายจากโรคมากกว่า 3 ราย (95%CI 0-5) เมื่อเปรียบเทียบกับ streptomycin[4] ส่วนยากลุ่ม aminoglycosides ชนิดอื่น ได้แก่ kanamycin ไม่แนะนำให้ใช้เนื่องเกิดพิษต่อหูและไตที่รุนแรง[5] และมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า amikacin[4]

เอกสารอ้างอิง
[1]. กองวัณโรค กรมควบคุมโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ. 2564. [อินเตอร์เน็ต]. 2564. [เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2567]. เข้าถึงได้จาก https://www.thainapci.org/2021/2021/11/30/เอกสารดาวน์โหลด-pdf-แนวทาง-42/
[2]. World Health Organization (WHO). WHO Consolidated guidelines on drug-resistant tuberculosis Module 4: treatment Drug-resistant tuberculosis treatment. [internet]. 2020. [cited 11 September 2567]. Available form: https://www.who.int/publications/i/item/9789240007048
[3]. วิลาวัณย์ ทองเรือง. (2555). ภาวะพิษต่อตับจากยาต้านวัณโรค: อุบัติการณ์ กลไก และการจัดการ. วารสารไทยเภสัชศาสตร์และวิทยาการสุขภาพ 2555, 7(4), 197-204.
[4]. Cegielski JP, Chan PC, Lan Z, et al. Aminoglycosides and Capreomycin in the Treatment of Multidrug-resistant Tuberculosis: Individual Patient Data Meta-analysis of 12,030 Patients From 25 Countries, 2009-2016. Clin Infect Dis. 2021;73(11):e3929-e3936.
[5]. World Health Organization (WHO). (2018). Frequently AskedQuestions on the WHO Rapid Communication: key changes to the treatment of multidrug- and rifampicin-resistant TB. [internet]. 2018. [cited 11 September 2567]. Available form: https://www.who.int/publications/m/item/WHO-CDS-TB-2018.18

วันที่ตอบ : 20 ก.ย. 67 - 11:36:26




พัฒนาระบบโดย ภานุชญา มณีวรรณ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110