RSV หรือ Respiratory syncytial virus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อโรคในระบบทางเดินหายใจและพบได้ในทุกช่วงอายุ แต่ในผู้สูงอายุมักจะพบอาการที่รุนแรงและทำให้ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังอยู่เดิม
สำหรับประเทศไทยมักพบเชื้อไวรัส RSV ได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับฤดูกาลระบาดของไข้หวัดใหญ่ ข้อมูลจากการเฝ้าระวังพบว่าเชื้อ RSV มักจะเป็นสาเหตุของการเกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็กและผู้สูงอายุ
อาการ
อาการในผู้ใหญ่มักไม่รุนแรงหรือในบางรายอาจไม่มีอาการ อาการที่พบได้มักเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ น้ำมูกไหล คอหอยอักเสบ ไอ ปวดหัว เหนื่อยล้าและอาการไข้ โดยอาการมักหายภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในผู้ใหญ่บางรายอาจพบอาการรุนแรงที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงดังกล่าว เช่น
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 75 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอายุระหว่าง 60-74 ปีร่วมกับมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อ
-
- ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรัง เช่น หัวใจล้มเหลว
- ผู้ที่มีโรคทางปอด เช่น หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย (ไตวาย) หรือผู้ป่วยไตที่ฟอกเลือด
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนที่ตาและไต หรือผู้ป่วยเบาหวานที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดอินซูลิน
- ผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็ง

การป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 75 ปีหรือมีอายุ 60-74 ที่มีความเสี่ยงควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน โดยวัคซีนป้องกันไวรัส RSV ในปัจจุบันที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย คือ Adjuvanted RSV vaccine ฉีด 1 เข็มเพียงครั้งเดียว
- มั่นล้างมือด้วยน้ำสะอาดหรือสบู่ หรืออาจใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60%
- ไม่ควรสัมผัสดวงตา จมูก หรือปากหากยังไม่ล้างมือด้วยน้ำสะอาดหรือสบู่
- หมั่นทำความสะอาดเครื่องใช้หรือบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู เป็นต้น
- เมื่อไอหรือจามให้ใช้กระดาษทิชชูปิดเสมอ และทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วลงถังขยะ หากไม่มีกระดาษทิชชูให้ไอหรือจามโดยใช้ข้อศอกปิด ไม่ควรใช้มือปิด
- หลักเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วยหรือไข้หวัดและไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน
การรักษา
การรักษา RSV ไม่ได้มียาเฉพาะแต่จะเป็นการรักษาตามอาการ โดยปกติอาการจะหายหลังได้รับการรักษา 1-2 สัปดาห์ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อย หรือมีอาการไอร่วมกับได้ยินเสียงหวีด อาจสงสัยว่ามีการติดเชื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนล่างร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์
เอกสารอ้างอิง
- Centers for disease control and prevention. Respiratory syncytial virus infection (RSV) [Internet]. 2024 [cited 2024 Sep 17]. Available from: https://www.cdc.gov/rsv/hcp/clinical-overview/index.html
- กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus: RSV) [อินเทอร์เน็ต]. 2023 [สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2567]. สืบค้นได้จาก : https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2/files/RSV_01.pdf
- Centers for disease control and prevention. Preventing respiratory viruses [Internet]. 2024 [cited 2024 Sep 17]. Available from: https://www.cdc.gov/respiratory-viruses/prevention/index.html
- Ison MG, Nam H. Respiratory syncytial virus infection in adults. [Internet]. Waltham (MA): UpToDate; 2024 [cited 2024 Sep 17]. Available from: https://www.uptodate.com/
บทความโดย
ผศ.ภญ.ฐิติมา ด้วงเงิน สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิก และ นศภ.ฟัรฮะห์ สะอะ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
©2025 by DICRXPSU
This work is licensed under CC BY-NC 4.0
การนำบทความนี้ไปเผยแพร่ หรือการคัดลอกส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความกรุณาอ้างอิงหรือขออนุญาตก่อนการเผยแพร่